วอลเปเปอร์ พร้อมติดตั้ง ด้วยทีมงานมืออาชีพ
ติดต่อเรา
ห้างหุ้นส่วนจำกัด วัสดุศิลป์
เลขที่ 91/148 หมู่ที่ 11 ตำบลลำลูกกา อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12150
โทร 02 136 7213 | มือถือ 066 087 0990 | ไลน์ไอดี @m4art
จำหน่ายวอลเปเปอร์ติดผนัง พร้อมติดตั้ง ราคาถูกกว่าร้านขายเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำ ยินดีให้คำปรึกษาฟรี ด้านงานออกแบบและติดตั้ง ช่วยเลือกวอลเปเปอร์ที่เหมาะกับ Lifestyle ในตัวคุณ มีให้เลือกหลากหลายสี หลายแบบหลายสไตล์ หาวอลเปเปอร์ ลายไหนไม่เจอ ทักมาหาเราได้เลยค่ะ
การตกแต่งบ้านและการรีโนเวทกำลังเป็นกระแสที่นิยมมาก ๆ ในช่วงนี้ค่ะ คุณอาจจะตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลได้โดยการซื้อต้นไม้ฟอกอากาศ, แจกันดอกไม้, ต้นไม้ประดิษฐ์, กระถางต้นไม้, โต๊ะทำงาน, พรมปูพื้นหรือติดม่านสวย ๆ ก็สามารถทำให้ห้องของคุณสวยงามได้แล้ว แต่จุดสำคัญของการตกแต่งบ้านไม่ได้จบแค่นั้นค่ะ หากบ้านของคุณมีผนังที่ผุพัง ผนังลอกหรือเสื่อมโทรมคุณจำเป็นต้องปรับปรุงใหม่ค่ะ แต่การทาสีใหม่นั้นไม่ได้ง่ายเลยค่ะเพราะคุณอาจจะต้องรื้อทุกอย่างออกเพื่อทาสี อีกทั้งยังต้องทนกับกลิ่นของสีด้วย ซึ่งนอกจากคุณจะต้องรู้จักประเภทของสีทาภายในอย่างดีแล้ว คุณยังต้องเตรียมอุปกรณ์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแปรงทาสี, บันไดอลูมิเนียม, กระดาษหรือพลาสติกสำหรับป้องกันสีเลอะ และอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้นเราจึงอยากแนะนำให้คุณรู้จักกับ “วอลล์เปเปอร์ติดผนัง” ค่ะ
วอลล์เปเปอร์ติดผนังนั้นเป็นอุปกรณ์ตกแต่งบ้านที่ได้รับความนิยมตลอดกาล คุณสามารถใช้อุปกรณ์นี้แทนสีทาบ้านได้ วอลล์เปเปอร์เป็นอุปกรณ์ที่ทันสมัยและคุณสามารถเลือกลวดลายของผนังได้ตามต้องการได้อาจจะเป็นสีพื้น, ลวดลายใบไม้, ลวดลายดอกไม้ หรืออาจจะเลือกลวดลายตารางก็ได้ สิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับวอลล์เปเปอร์คือมันติดตั้งและจัดการออกได้ง่ายมาก ซึ่งหมายความว่ามันใช้งานได้เหมือนสติกเกอร์ขนาดใหญ่ ดังนั้นวอลล์เปเปอร์จึงเป็นทางออกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการการตกแต่งบ้านที่สมบูรณ์แบบ หากวันนี้คุณกำลังมองหาวอลล์เปเปอร์ติดผนังอยู่ไม่ต้องไปไหนไกลค่ะเพราะเราจะเป็นคนแนะนำคุณเอง
วอลเปเปอร์ติดผนัง กับ ทาสีผนัง แบบไหนดีกว่ากัน? หลายคนมีความเชื่อว่า การติดวอลเปเปอร์ มักจะมีปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาที่แพง อายุการใช้งานที่สั้น การดูแลรักษายาก การติดตั้งยาก ติดแล้วก็ลอกยาก และอื่น ๆ อีกตามมา
การติดวอลเปเปอร์ผนัง วอลเปเปอร์ติดผนัง(Wallpaper) เป็นวัสดุตกแต่งภายในที่ผลิตจากวัสดุหลายชนิด เช่น กระดาษ, ผ้า, ไวนิล, โฟม และวัสดุอื่น ๆ อีกหลายประเภท โดยมีจุดเด่นที่ใช้งานได้สะดวกสบาย เพียงทากาว แล้วติดวอลเปเปอร์ลงไปบนผนังได้เลย หรือวอลเปเปอร์ประเภทที่มาพร้อมกาว เพียงแกะกาวแล้วแปะลงไปได้เลย จากนั้นรอให้กาวแห้ง ก็สามารถเข้าอยู่ได้เลยไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นรบกวน นอกจากนี้ หากต้องการเปลี่ยนวอลเปเปอร์ ก็ทำได้ง่ายเพียงพรมน้ำลงบนวอลเปเปอร์เดิมแล้วทิ้งไว้สักพักให้แผ่นวอลเปเปอร์หลุดออกมา หรือใช้มือลอกออกก็ทำได้ง่าย ๆ
ข้อดี
เลือกได้หลายรูปแบบ วอลเปเปอร์ได้เปรียบกว่าสีทาบ้านที่รูปแบบหลากหลาย เนื่องจาก การทาสีเป็นเพียงการทาสีแบบพื้น ๆ แต่วอลเปเปอร์นั้น มีลวดลาย และพื้นผิวสัมผัสให้เลือกหลายแบบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างเอกลักษณ์ให้กับบ้าน
ประหยัดเวลา การติดตั้งวอลเปเปอร์นั้น สามารถทำเองได้โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยช่างเฉพาะทาง เช่น วอลเปเปอร์ชนิดมีกาวในตัวติดตั้งง่าย ๆ เพียงลอกเทปกาวด้านหลังแล้วใช้ผ้าลูบที่วอลเปเปอร์ไปตามผนังที่ต้องการก็เป็นที่เรียบร้อย อีกทั้งวอลเปเปอร์ก็มีขนาดหน้ากว้างมาก ทำให้ติดตั้งได้เร็วยิ่งขึ้น
ไม่มีกลิ่นรบกวน ปกติหลังจากทาสีบ้านมักจะต้องทิ้งระยะเวลา เพื่อให้กลิ่นสีระเหยออกจนหมด แต่วอลเปเปอร์บางประเภท เช่น ชนิดที่มีกาวอยู่ในตัวนั้น เมื่อติดแล้วสามารถเข้าอยู่ได้เลย เนื่องจากไม่มีกลิ่นรบกวน
ช่วยปกปิดร่องรอยบนผนัง วอลเปเปอร์เป็นวัสดุที่ช่วยปกปิดร่องรอยคราบสกปรก รอยร้าว รอยแตกร้าว ได้เป็นอย่างดี แถมยังประหยัดค่าใช้จ่าย และเวลามากกว่าการทาสีอีกด้วย
ดูดซับเสียงได้ดี ปัจจุบันวอลเปเปอร์ถูกพัฒนาให้มีคุณสมบัติดูดซับเสียง และกันเสียงสะท้อนได้ดีกว่าการทาสี การใช้วอลเปเปอร์ จึงช่วยกันเสียงจากทั้งภายนอก และภายในบ้าน ซึ่งอาจเล็ดลอดเข้ามาสร้างความรำคาญใจได้
ข้อเสีย
อายุการใช้งานค่อนข้างสั้น คุณภาพของวอลเปเปอร์นั้น มีหลายเกรด ยิ่งเกรดดีก็จะส่งผลต่อระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนานขึ้น และราคาที่สูงขึ้น เช่นกัน หากเลือกวอลเปเปอร์ที่คุณภาพไม่สูงนักก็จะอยู่ได้เพียง 6-8 ปี จะเริ่มลอกร่อน ซึ่งทำให้ต้องเสียเงิน และเวลาซ่อมแซม
ปัญหาความชื้นและเชื้อรา ในช่วงหน้าฝนความชื้น และเชื้อรามักสร้างความเสียหายให้กับส่วนต่าง ๆ ของบ้าน ความชื้นสะสมในผนังที่ทำให้เกิดเชื้อราก็เป็นสาเหตุที่ทำให้วอลเปเปอร์บวม ลอกร่อน และลดอายุการใช้งานนั่นเอง
พื้นผิวเสียหาย วอลเปเปอร์บางประเภทอาจทิ้งร่องรอยเอาไว้บนผนังหลังจากลอกออก ทำให้หลังจากลอกออกแล้ว อาจจะต้องเสียเวลา และค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม หรือต้องติดวอลเปเปอร์ใหม่ทับเท่านั้น
ขั้นตอนการติดวอลเปเปอร์ ที่คุณก็ทำได้ด้วยตัวเอง
หากคุณต้องการเปลี่ยนผนังที่ทาสีไปบุกระดาษปิดฝาผนังหรือ Wallpaper นั้น ต้องดูสภาพผนังของคุณก่อน หากผนังของมีสีจัดจ้าน ให้ทาสีขาวทับลงไป แล้วค่อยติด Wallpaper ที่ต้องทาสีขาวทับลงไปก็เพื่อไม่ให้สีของผนังไปข่มทำให้ Wallpaper ดูสีเปลี่ยนไปจากที่ตั้งใจ แต่หากท่านจะเปลี่ยนผนังที่บุ Wallpaper เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย เพราะการติด Wallpaper ส่วนใหญ่จะใช้กาวเป็นตัวปิดประสาน และกาวนี้จะมีความลื่นไม่เกาะเนื้อสี
ขั้นตอนการติด Wallpaper
1. การเตรียมผนัง หรือ เพดาน (คอนกรีต / ไม้อัดเรียบ / ยิปซั่มบอร์ด)
– ทำความสะอาดผนังที่จะทำการติดตั้งวอลล์เปเปอร์ให้เรียบร้อย
– หากผนังไม่เรียบให้ขัดผนังด้วยหินขัด หรือกระดาษทรายให้เรียบ
– หากผนังเป็นร่อง มีรอยร้าวให้แต่งผนังให้เรียบโดยใช้ยิปซั่ม หรือปูนดำผสมน้ำ และกาวลาเท็กซ์โป้วร่องให้เรียบ
2. วัดความสูง และความกว้างของผนังที่จะทำการติดตั้ง เพื่อเตรียมวอลล์เปเปอร์ที่จะนำมาติด
3. แบ่งผนังให้เหมาะสม และเสียเศษน้อย ใช้ลูกดิ่งจับดิ่งจากฝาผนังลงมาที่พื้น และขีดเส้นตามแนวดิ่ง เพื่อจับแนวเวลาต่อลายให้ตรง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องลายเอียงการจับดิ่งนั้นจะจับจุดใดจุดหนึ่งก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะจับจากหน้าประตูตรงวงกบก่อน
3. นำวอลล์เปเปอร์ที่จะติดมาเทียบลาย และ ตัดให้ได้ขนาดตามความสูงของผนังหรือเพดาน เผื่อด้านหัว-ท้ายไว้ตามสมควรแล้วเขียนด้านหลังของวอลล์เปเปอร์ตามลำดับก่อน – หลัง
4. นำลูกกลิ้งที่มีฟองน้ำชุบแป้งเปียกกลิ้งด้านหลังวอลล์เปเปอร์ให้ทั่ว เว้นขอบริมไว้ด้านละ 1-1.5 นิ้ว แล้วพับวอลล์เปเปอร์ด้านบนและล่างเข้าหากัน เพื่อสะดวกในการนำไปติดตั้งเพราะแป้งเปียกจะแห้งช้า
5. นำวอลล์เปเปอร์ที่ลงแป้งเปียกแล้วมาติดบนผนัง โดยติดริมวอลล์เปเปอร์ด้านใดด้านหนึ่งกับเส้นแนวดิ่งแล้วนำไม้อัดหุ้มด้วย พรมอัดรีดบนวอลล์เปเปอร์จากซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้ายเข้าหากำแพงเพื่อไล่ฟองอากาศ
6. หลังจากติดวอลล์เปเปอร์แผ่นแรกไปแล้ว ให้นำวอลล์เปเปอร์แผ่นที่สองมาชนกับแผ่นแรก โดยจับลายแผ่นแรก และ แผ่นที่สองให้ตรงกัน แล้วไล่ฟองอากาศวอลล์เปเปอร์แผ่นที่สอง หลังจากนั้น ให้เปิดริมวอลล์เปเปอร์ทั้งสองแผ่นแล้วทากาวลาเท็กซ์ลงบนผนัง ระหว่างรอยต่อทั้งสองด้าน ปิดริมวอลล์เปเปอร์ทั้งสองด้านให้สนิทกัน หลังจากนั้นใช้ลูกกลิ้งไม้กลิ้งตามรอยต่อเพื่อให้รอยต่อริมวอลล์เปเปอร์สนิทและแน่นขึ้น
7. หลังจากนั้นให้ติดวอลล์เปเปอร์ตามวิธีการข้างต้นจนเต็มพื้นที่ที่ต้องการ
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเราต้องใช้วอลล์เปเปอร์จำนวนเท่าไหร่ในการติดตั้งแต่ละครั้งและเพื่อหลีกเลี่ยงการซื้อวอลล์เปเปอร์ที่มากหรือน้อยเกินไปเราก็มีวิธีวัดขนาดพื้นที่และวิธีกำหนดวอลล์เปเปอร์ว่าในแต่ละพื้นที่ต้องใช้กี่ม้วน
- วัดผนังทั้งหมดแล้วคูณความกว้างและความสูงของแต่ละพื้นที่เป็นฟุต (1 ฟุต : 30 เมตร)
- อย่าลืมตัดขนาดหน้าต่าง ประตูและช่องเปิดขนาดใหญ่อื่น ๆ ออกเพื่อตัดพื้นที่ที่ไม่จำเป็นต้องติดวอลล์เปเปอร์
- ตรวจสอบฉลากม้วนวอลล์เปเปอร์ว่าม้วนวอลล์เปเปอร์ให้ความครอบคลุมพื้นที่มากน้อยเพียงใดและตรวจสอบให้แน่ใจว่าการครอบคลุมอย่างเหมาะสม
- หลักการทั่วไปคือสั่งซื้อวอลล์เปเปอร์สีเดียวกันและยี่ห้อเดียวกัน เพื่อลดความแตกต่างของสี นอกจากนี้คุณยังสามารถมั่นใจได้โดยดูที่หมายเลขแบทช์ของวอลล์เปเปอร์ หากหมายเลขแบทช์เหมือนกันจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงของสี
1. ตำแหน่งที่ใช้ติดตั้งวอลล์เปเปอร์
ก่อนที่คุณจะเริ่มพิจารณารูปแบบคุณต้องตัดสินใจเกี่ยวกับตำแหน่งสำหรับผนังที่ต้องการติดวอลล์เปเปอร์ ผนังนั้นมีหน้าที่เป็นจุดโฟกัสในห้องดังนั้นคุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้จัดวางในตำแหน่งที่ถูกต้องและไม่ถูกซ่อนจากมุมมืดหรือถูกบดบังด้วยเฟอร์นิเจอร์ หากคุณต้องการให้บ้านหรือห้องมีความโดดเด่น คุณควรเลือกตำแหน่งส่วนกลางไว้ติดตั้งวอลล์เปเปอร์ก็ได้หรือจะติดทั่วห้องก็สามารถทำได้เช่นกัน แน่นอนว่าคุณสามารถติดวอลล์เปเปอร์ในห้องนอน ห้องโถง ห้องนั่งเล่นหรือแม้แต่ห้องน้ำก็สามารถติดได้ตามความต้องการเลยค่ะ
2. ลักษณะของวอลล์เปเปอร์
สไตล์ของวอลล์เปเปอร์ควรเข้ากับสไตล์การตกแต่งที่เหลือในบ้านของคุณเพื่อให้การตกแต่งดูเป็นธรรมชาติ สมมุติหากพื้นที่ในบ้านของคุณส่วนใหญ่เป็นสีน้ำตาลธรรมชาติ คุณก็ต้องตกแต่งบ้านโทนสีน้ำตาลหรือสีขาว ห้ามตกแต่งสีสันฉูดฉาดเด็ดขาดเพราะจะทำให้ผนังโดดเด่นเกินไปดูไม่สวยงาม สำหรับการตกแต่งบ้านที่เน้นเป็นทางการมักจะได้รับใช้วอลล์เปเปอร์ที่ดูหรูหราหรือวอลล์เปเปอร์ที่ออกแบบเองโดยเฉพาะในการตกแต่งค่ะ ส่วนสำหรับบ้านที่ต้องการการตกแต่งแบบทันสมัยให้เลือกรูปแบบวอลล์เปเปอร์ที่มีการตกแต่งลวดลายเรขาคณิตหรือแบบมินิมอล เพื่อการตกแต่งที่ทันสมัยยิ่งขึ้น หากคุณเลือกรูปแบบวอลล์เปเปอร์ที่เป็นลายเส้นเราขอแนะนำให้เลือกลายเส้นตัว V หรือตัว U เพราะมันจะทำให้เพดานสูงขึ้น ส่วนลวดลายเส้นรูปแบบแนวนอนเน้นความกว้างและทำให้ห้องแคบ ๆ ดูกว้างขึ้นค่ะ
3. สีของวอลล์เปเปอร์
สีที่คุณเลือกสำหรับวอลล์เปเปอร์ภายในควรเข้ากันได้ดีกับหน้าต่าง พื้น และเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ของคุณ คุณสามารถเพิ่มความโดดเด่นของสีได้โดยการเลือกวอลล์เปเปอร์สีที่มีลวดลายน้อยวิธีนี้ทำให้ห้องมีความหรูหรามากยิ่งขึ้น อย่าลืมใช้สีของวอลล์เปเปอร์ที่เหมือนกันทุกแผ่นเพื่อสร้างความสมดุลของสี แน่นอนว่าคุณสามารถเลือกสีวอลล์เปเปอร์ที่ชอบได้แต่บางครั้งสีที่คุณเลือกมันก็ไม่ได้เข้ากับการตกแต่งในบ้านเสมอไป ดังนั้นความเหมาะสมเป็นเรื่องที่ต้องมาก่อนสำหรับการตกแต่งบ้าน
4. วอลล์เปเปอร์ที่มีกาวในตัว
การเลือกวอลล์เปเปอร์ที่มีกาวในตัวช่วยให้คุณสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นมาก คุณสามารถติดวอลล์เปเปอร์ที่มีกาวในตัวได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องจ้างช่างมาติดให้เสียเงิน หากคุณซื้อวอลล์เปเปอร์ที่มีกาวในตัวคุณสามารถทำได้โดยการลอกแผ่นกาวออกและติดลงบนผนังให้เรียบเนียน แค่นี้ก็เรียบร้อยค่ะไม่ต้องมีอุปกรณ์มากมาย แต่ในบางครั้งวอลล์เปเปอร์ที่มีกาวในตัวอาจจะไม่สามารถใช้ได้กับผนังบางประเภทได้ ดังนั้นควรตรวจสอบก่อนว่าวอลล์เปเปอร์ที่คุณซื้อนั้นสามารถใช้ได้กับผนังใดบ้าง
5. ทำความสะอาดได้ง่าย
จุดสำคัญเมื่อต้องเลือกซื้อวอลล์เปเปอร์คือวอลล์เปเปอร์นั้นควรจะทำความสะอาดได้ง่าย วอลล์เปเปอร์บางยี่ห้อนั้นไม่สามารถทำความสะอาดได้เพราะทำจากวัสดุที่ไม่ทนน้ำและอาจจะละลายได้เมื่อโดนน้ำ ดังนั้นหากคุณเลือกวอลล์เปเปอร์ต้องเลือกวัสดุให้ดี หากคุณเลือกวัสดุที่ถูกต้องวอลล์เปเปอร์จะสามารถอยู่ได้นานถึง 10 ปี หากคุณต้องการเลือกวัสดุที่ทำความสะอาดได้ง่ายเราขอแนะนำให้เลือกวัสดุ PVC ค่ะ เพราะมันจะไม่กักเก็บฝุ่น ทำความดูและรักษาได้ง่าย อีกทั้งคุณยังสามารถทำความสะอาดได้ด้วยการใช้น้ำสบู่อีกด้วย
เมื่อคุณต้องการเปลี่ยนวอลล์เปเปอร์อันใหม่คุณต้องลบกาวเดิมออกเสียก่อน โดยทำการลอกชั้นนอกสุดของวอลล์เปเปอร์ออกให้หมด เมื่อนำวอลล์เปเปอร์ออกแล้วคุณก็ถึงขั้นตอนที่จะต้องลอกคราบกาวออกแล้วค่ะ เทคนิคเหล่านี้สามารถใช้กับผนังที่ตกแต่งด้วยแผ่นผนัง drywall หรือปูนปลาสเตอร์ได้เช่นกันค่ะ
1. เคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์
คุณอาจต้องเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เมื่อคุณเริ่มกระบวนการลบกาววอลล์เปเปอร์ การเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์จะทำให้คุณมีพื้นที่มากขึ้นในการเคลื่อนย้ายบันได หากคุณไม่สามารถย้ายเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดออกได้ให้ย้ายออกจากผนังและคลุมด้วยผ้าใบพลาสติกป้องกันคราบกาวหรือน้ำ
2. สับคัทเอ้าต์หรือปิดเทปอุปกรณ์ไฟฟ้า
คุณอาจจะต้องสับคัทเอาต์และปิดเต้ารับไฟฟ้าด้วยเทปเพื่อป้องกันความชื้นของน้ำยาทำความสะอาดไม่ให้เกิดปัญหาทางไฟฟ้า
3. ปกป้องพื้นและพรม
เนื่องจากการลอกกาวออกต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดแบบเปียกและต้องขูดผนัง คุณจึงควรป้องกันพื้นหรือพรมจากหยดน้ำและคราบสกปรกต่าง ๆ อย่าลืมปูพื้นด้วยผ้าใบกันน้ำพลาสติกที่ติดเทปอย่างแน่นหนา
4. ผสมน้ำยาทำความสะอาด
ในถังขนาดใหญ่ให้ผสมน้ำร้อนหนึ่งแกลลอนร่วมกับน้ำยาล้างจานหนึ่งช้อนชาและน้ำส้มสายชูกลั่นขาวหนึ่งถ้วยและคนให้เข้ากัน คุณจะต้องผสมสารละลายนี้หลาย ๆ ครั้งเพื่อให้สามารถใช้กับผนังได้ คุณต้องสวมถุงมือล้างจานในการทำความสะอาด วิธีนี้จะช่วยป้องกันมือของคุณจากน้ำและหยดน้ำที่อาจไหลลงมาที่แขนของคุณ
5. ใช้น้ำยาทำความสะอาด
เริ่มใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ด้านบนของผนัง ทำจากบนลงล่างเสมอเพื่อป้องกันไม่ให้ต้องทำความสะอาดใหม่ซ้ำ จุ่มฟองน้ำลงในสารละลายแล้วบิดจนกว่าจะไม่มีน้ำหยดแต่ยังคงเปียกหมาด ๆ อยู่ ถูให้ทั่วส่วนของผนังที่ปิดด้วยกาว
6. เช็ดกำแพงเปียกด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์
หลังจากผ่านไปสองหรือสามนาทีให้เช็ดผนังที่เปียกด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ที่คุณชุบน้ำยาทำความสะอาดแล้ว กาวจะอ่อนตัวลงดังนั้นคุณอาจใช้ผ้าเช็ดออกก็ได้
7. หากคราบกาวไม่ออก
หากคราบกาวไม่หลุดออกจากผ้าให้ลองใช้น้ำยาทำความสะอาดอีกครั้งและรออีกสักครู่ หากไม่ได้ผลให้จุ่มผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบเบกกิ้งโซดาแล้วถูเบา ๆ บริเวณที่มีกาว หากยังไม่ออกให้ใช้มีดสำหรับขูดใช้ขูดคราบกาวออกจากผนัง ทำช้า ๆ โดยใช้แรงกดเบา ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยขูดบนผนัง
8. ล้างและเช็ดผนังให้แห้ง
เมื่อลอกกาวออกแล้ว จุ่มผ้าไมโครไฟเบอร์ที่สะอาดในน้ำแล้วบิดจนหมาดเล็กน้อยเท่านั้น เช็ดผนังเพื่อกำจัดกาวทั้งหมด ปล่อยให้พื้นแห้งอย่างน้อยข้ามคืนก่อนที่จะพยายามทาสีหรือติดวอลล์เปเปอร์ให